วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หน่วยความจำ (memory)

หน่วยความจำ (memory)
     หน่วยความจำ (memory) เป็นอุปกรณ์ภายในเครื่องที่มีความสำคัญอย่างมากที่ใช้สำหรับพักข้อมูลและคำสั่งต่างที่ใช้ในการประมวลผลให้กับซีพียู     สำหรับหน่วยความจำทั่วไปนั้จะแบ่งเป็น  2 ประเภทดังต่อไปนี้
หน่วยความจำหลัก
     เป็นหน่วยความจำประภทที่จะต้องทำงานร่วมกับซีพียูอยู่ตลอดเวลาถ้าหากไม่มีหน่วยความจำส่วนนี้ซีพียูจะไม่มีที่เก็บรวบรวมข้อมูลและคำสั่งต่างๆ โดยหน่วยความจำหลังยังแบ่งได้อีก 2ประเภท
     หน่วยความจำ Rom (read only memory)   เป็นหน่วยความจำ  ซึ่งเก็บข้อมูลที่สำคัญได้อย่างถาวรแม้ไม่มีไฟหล่อเลี้ยงวงจร
     หน่วยความจำ Rom (random  Access  Memory)    คือหน่วยความจำหลักที่ทำงานร่วมกับซีพีย฿อยู่ตลอดเวลา  จึงมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของเครื่องมากเช่นกัน
     หน่วยความจำสำรอง
เป็นหน่วยความจำที่ทำหน้าที่เก็บสสำรองข้อมูลต่างๆเอาไว้หน่วยความจำประเภทนี้มีหลายชนิดเช่น ฮาร์ดดิสก์   ฟล็อปปี้ดิสก์  ซีดีรอมแฟลช   เมโมรี  


แรม (RAM)
     แรมหรือหน่วยความจำหลักซึ่งมีการเข้าถึงข้อมูลแบบสุ่ม   แรมจะทำงานร่วมกับซีพียูโดยตรง และถูกใช้เป็นที่พักข้อมูลหรือคำสังจากการประมวลผลของตัวซีพียู จะเห็นได้ว่าคอวพิวเตอร์ประสิทธิภาพดีเพียงใดนอกจากความเร็วของซีพียูแล้วแรมมีส่วนสำคัญอย่างยิง


ประเถทของหน่วยความจำหลัก
      หน่วยความจำหลังสำหรับเก็บข้อมูล ได้มีการพัฒนาหลายรูปแบบแต่สามารถแบ่งตามโครงสร้างได้เป็น 2 ประเภทคือ
   * SRAM (static ram) ทำจากทราบซิสเตอร์กินไฟมากมีความเร็วสูงแต่มีราคาแพงมาก
   * DRAM (dynamic ram) เป็นหน่วยความจำที่กินไฟน้อย และก็มีราคาถูกกว่า SRAM

ชนิดของแรม
       หน่วยความจำหรือแรมที่ใช้งานกันในปัจจุบันก็คือ DRAM นั่นเอง แต่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและมีการผลิตขึ้นมาใช้งานหลายชนิดสำหรับแรมที่ยังคงมีใช้งานกันในปัจจุบันนี้ได้แก่
แรมชนิด SDRAM เป็นหน่วนความจำแบบแผง ที่มีสัญญาณ168 Pin ใช้เสียบกับซ้อกเก็ตแบบ การเรียกชื่อแรม 66, PC-100 และ PC-133หมายความจำแรมชนิดนี้มีความเร็ว 66,100 และ 133 mhz ตามที่ลำดับเนื่องจากผู้ผลิตส่วนใหญ่หันไปผลิตแรมชนิด DD SDRAM และ DDR2 ซึ่งมีความเร็วในการทำงานสูงและได้รับความนิยมในการใช้งานมากที่สุดแทน


ค่าหน่วยเวลาของแรม
     การทำงานแรมจะต้องส่งข้อมูลในตำแหน่งแถวไปก่อนแล้วจึงจะส่งข้อมูลในตำแหน่งหลักแรมที่มี cl สูงจะทำงานได้ช้ากกว่าแรมที่ทีค่า cl ต่ำ

การตรวจดูชนิดของแรม
      โดยทั่วไปบนแผงแรม มักจะมีสติกเกอร์ของผู้ผลิตแปะติดไว้ เพื่อบ่งบอกถึงยี่ห้อ ชนิด ขนาด ความเร็ว ค่า cl และค่าอื่นๆ เนื่องจากแรมที่มีความกว้างบัส 64 บิตหรือ 8 ไบต์ ไปต์จึงนำ 8 ไปหารจะได้ความเร็วแรมคือ 400 mhz

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น